วันพฤหัสบดีที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2560

เที่ยวเชียงราย กับ 15 สถานที่แจ่ม ๆ สัมผัสความงามแห่งขุนเขา


เที่ยวเชียงรายกับ 15 สถานที่แจ่ม ๆ สัมผัสความงามแห่งขุนเขา

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

           เชียงราย นับเป็นจังหวัดที่อยู่เหนือสุดของประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นเมืองเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน แถมยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่าไม้บนดอยสูงที่สลับซับซ้อน เป็นแหล่งกำเนิดต้นน้ำและน้ำตกอันงดงามหลายแห่ง รวมถึงมีประชากรหลายเชื้อชาติ ทั้งชาวไทยพื้นราบ ชาวไทยภูเขา และชาวจีนฮ่อ ที่อพยพเข้ามาอาศัยอยู่บนดอยสูง ซึ่งแต่ละชนชาติจะมีประเพณี วัฒนธรรม และวิถีชีวิตที่มีเอกลักษณ์ เป็นเสน่ห์อีกอย่างที่ทำให้เชียงรายได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ จึงไม่ต้องแปลกใจเลยหากเชียงรายจะเป็นจังหวัดอันดับต้น ๆ ที่นักเดินทางมักคิดถึงเป็นที่แรก ๆ ดังนั้น กระปุกท่องเที่ยวเลยหยิบเอา 15 สถานที่ท่องเที่ยวเชียงราย ที่ใคร ๆ มาแล้วก็ต้องไปเยือนมาแนะนำกันค่ะ


 1. ไร่บุญรอด 

ไร่บุญรอด

           สิงห์ ปาร์ค (Singha Park) หรือที่หลาย ๆ คนเรียกว่า ไร่บุญรอด ตั้งอยู่ริมถนนสายเด่นห้า-ดงมะดะ อำเภอเมือง ห่างจากเขตชุมชนเมืองเชียงราย ประมาณ 9 กิโลเมตร ในพื้นที่ประมาณ 8,000 ไร่ ครอบคลุม 4 ตำบล ได้แก่ ตำบลดอยฮาง ตำบลรอบเวียง ตำบลป่าอ้อดอนชัย และตำบลแม่กรณ์ ความสูงของพื้นที่เฉลี่ย 450 เมตร เหนือจากระดับน้ำทะเล ในฤดูหนาวอากาศค่อนข้างเย็นสบาย

           สภาพของพื้นที่โดยทั่ว ๆ ไปเป็นที่ลาด-เนินเขา มีภูเขาเล็ก ๆ พื้นที่มีความลาดเทปานกลาง เป็นพื้นที่เพาะปลูกพื้นหลากหลายชนิด เช่น ชาอู่หลงสายพันธุ์จินซวน (Jin Xuan) หรือที่คนไทยรู้จักในชื่อ ชาอู่หลงเบอร์ 12 เป็นชาสายพันธุ์ไต้หวัน ปลูกบนพื้นที่กว่า 600 ไร่ จำนวนกว่า 761,000 ต้น พื้นที่ปลูกยางพารากว่า 2,700 ไร่ พุทราพันธุ์ซื่อหมี่ กว่า 100 ไร่, สตรอว์เบอร์รี อีกหนึ่งสุดยอดที่มาพร้อมลมหนาว ซึ่งที่ไร่บุญรอดจะปลูกสตรอว์เบอร์รีในพื้นที่ 4 ไร่ สายพันธุ์พระราชทาน 80 เป็นเกษตรกรรมผสมผสาน หมดฤดูกาลจะปลูกแคนตาลูปและมะเขือเทศพันธุ์เลื้อย โดยสตรอว์เบอร์รีจะให้ผลผลิตมกราคม-กุมภาพันธ์ และพืชผักผลไม้เมืองหนาวอีกหลากหลายชนิด
           ทั้งนี้ สิงห์ ปาร์ค เปิดบริการให้ชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00–16.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 08 0900 2686 หรือเว็บไซต์ boonrawdfarm.com และ เฟซบุ๊ก Boon Rawd Farm 


 2. พระธาตุดอยตุง

พระธาตุดอยตุง

           พระธาตุดอยตุง ตั้งอยู่บริเวณกิโลเมตรที่ 17.5 บนทางหลวงหมายเลข 1149 เป็นที่บรรจุพระรากขวัญเบื้องซ้าย (กระดูกไหปลาร้า) ของพระพุทธเจ้า นำมาจากมัธยมประเทศ นับเป็นครั้งแรกที่พระพุทธศาสนาลัทธิลังกาวงศ์ได้มาประดิษฐานที่ล้านนาไทย เมื่อก่อสร้างพระสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุนี้ ได้ทำธงตะขาบ (ภาษาพื้นเมืองเรียกว่า ตุง) ใหญ่ยาวถึงพันวา ปักไว้บนยอดดอย ถ้าหากปลายธงปลิวไปไกลถึงเมืองไหน ก็จะกำหนดเป็นฐานพระสถูป เหตุนี้ดอยซึ่งเป็นที่ประดิษฐานปฐมเจดีย์แห่งล้านนาไทย จึงปรากฏนามว่า ดอยตุง

           ทั้งนี้ พระธาตุดอยตุงเป็นปูชนียสถานที่สำคัญ เมื่อถึงเทศกาลนมัสการพระธาตุดอยตุงจะมีพุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทยและเพื่อนบ้านจากประเทศใกล้เคียง เช่น ชาวเชียงตุงในรัฐฉาน สหภาพพม่า ชาวหลวงพระบาง เวียงจันทน์ เดินทางเข้ามานมัสการทุกปี  


 3. พระตำหนักดอยตุงและสวนแม่ฟ้าหลวง

พระตำหนักดอยตุงและสวนแม่ฟ้าหลวง

           พระตำหนักดอยตุง ตั้งอยู่ในเขตอำเภอแม่ฟ้าหลวง ห่างจากตัวเมืองเชียงรายประมาณ 60 กิโลเมตร พระตำหนักดอยตุงเคยเป็นที่ประทับแปรพระราชฐานเพื่อทรงงานของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี มีรูปทรงผสมผสานระหว่างศิลปะล้านนากับชาเลย์ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีการแกะสลักไม้ตามกาแล เชิงชายและขอบหน้าต่างเป็นลวดลายต่าง ๆ โดยฝีมือช่างชาวเหนือ รอบ ๆ พระตำหนักมีสวนดอกไม้หลากพันธุ์ หลายสี ให้ความสวยงามสดชื่น โดยเฉพาะในฤดูหนาวจะเห็นหมอกจาง ๆ บริเวณยอดเขารอบพระตำหนัก มีเจ้าหน้าที่นำชมเป็นรอบ ๆ ละ 20 นาที เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 07.00-17.00 น. ค่าเข้าชม 90 บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทรศัพท์ 0 5376 7015-7 หรือ www.doitung.org

           ส่วน สวนแม่ฟ้าหลวง อยู่ด้านหน้าพระตำหนักดอยตุง มีเนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ เป็นสวนดอกไม้เมืองหนาว อาทิ ดอกซัลเวีย, พิทูเนีย, บีโกเนีย, กุหลาบ, ดอกลำโพง, ไม้มงคลต่าง ๆ, ไม้ยืนต้น และซุ้มไม้เลื้อยอีกมากกว่า 70 ชนิด รูปปั้นต่อเนื่องฝีมือของ มีเซียม ยิบอินซอย (Misiem Yipintsoi) เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 06.30-18.00 น. ค่าเข้าชม 90 บาท

           หอแห่งแรงบันดาลใจ เป็นอาคารแสดงพระราชประวัติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีและพระราชวงศ์ มีห้องจัดแสดงนิทรรศการ 8 ห้อง เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น. ค่าเข้าชม 50 บาท นอกจากนั้นยังมีร้านขายของที่ระลึก เสื้อผ้าไหม ผลิตภัณฑ์จากโครงการหลวงทั้งผักผลไม้ ดอกไม้ พรรณไม้ต่าง ๆ ให้ซื้อกลับไปเป็นของฝาก
           นักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้าชมทั้งพระตำหนักดอยตุง สวนแม่ฟ้าหลวง และหอแห่งแรงบันดาลใจ โดยมีจำหน่ายบัตรรวม ราคา 190 บาท ซุ้มจำหน่ายบัตรเปิดเวลา 06.30-18.00 น. หลังเวลา 17.00 น. จำหน่ายเฉพาะบัตรชมพระตำหนักและสวนแม่ฟ้าหลวง (หมายเหตุ : ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง สามารถเช็กราคาได้ที่ www.doitung.org)


 4. วัดร่องขุ่น 

วัดร่องขุ่น

           วัดร่องขุ่น อยู่ในท้องที่ตำบลป่าอ้อดอนชัย อำเภอเมือง ออกแบบและก่อสร้างโดย อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ เมื่อ พ.ศ. 2540 โดยบนพื้นที่เดิมของวัด 3 ไร่ และขยายออกเป็น 12 ไร่ พระอุโบสถสีขาวตกแต่งด้วยลวดลายกระจกสีเงินแวววาว เป็นเชิงชั้นลดหลั่นกันไป หน้าบันประดับด้วยพญานาค ภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในพระอุโบสถและห้องแสดงภาพวาดน่าสนใจมาก เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น. โทรศัพท์ 0 5367 3579 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ วัดร่องขุ่น.com

           การเดินทาง : วัดอยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงราย 12 กิโลเมตร บนเส้นทางไปจังหวัดพะเยา เลี้ยวขวาที่สามแยกทางไปน้ำตกขุนกรณ์ ประมาณ 100 เมตร วัดอยู่ซ้ายมือ


 5. ดอยแม่สลอง

ดอยแม่สลอง

           ดอยแม่สลอง เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านสันติคิรี เดิมชื่อ บ้านแม่สลองนอก เป็นชุมชนผู้อพยพจากกองพล 93 จากสหภาพพม่าเข้ามาในเขตไทย จำนวนสองกองพัน คือ กองพันที่ 3 เข้ามาอยู่ที่อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ และกองพันที่ 5 อยู่ที่บ้านแม่สลองนอก ตั้งแต่ พ.ศ. 2504 ในเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ดอกนางพญาเสือโคร่ง ซึ่งเป็นซากุระพันธุ์ที่เล็กที่สุด สีชมพูอมขาวจะบานสะพรั่งตลอดแนวทางขึ้นดอยแม่สลอง เป็นพันธุ์ไม้ที่หาชมได้ยากในเมืองไทย เพราะเจริญเติบโตอยู่แต่เฉพาะในภูมิอากาศหนาวจัดเท่านั้น

           จุดน่าสนใจบนดอยแม่สลอง เช่น ชมไร่ชาและศึกษาวิธีการผลิตชา ขี่ม้าชมทิวทัศน์รอบหมู่บ้านเจียงจาใส และอนุสรณ์สถานอดีตทหารจีนคณะชาติภาคเหนือ ประเทศไทย ลองไปศึกษาเรื่องราวและประวัติของชาวดอยแม่สลอง โดยจะมีไกด์คอยนำชม เปิดบริการทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น. ค่าเข้าชม 30 บาท สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ อบต. แม่สลองนอก โทรศัพท์ 0 5376 5129

           การเดินทางใช้เส้นทางเชียงราย-แม่จัน 28 กิโลเมตร เลยจากอำเภอแม่จันไป 1 กิโลเมตร มีทางแยกซ้ายไป 23 กิโลเมตร ผ่านหมู่บ้านผาเดื่อ ซึ่งเป็นจุดแวะชมและซื้อหัตถกรรมชาวเขา จากนั้นเดินทางจากบ้านอีก้อสามแยก ตรงไปดอยแม่สลอง ระยะทาง 10 กิโลเมตร รวมระยะทางจากเชียงราย 64 กิโลเมตร เป็นทางลาดยางตลอดสาย และจากดอยแม่สลองมีถนนเชื่อมต่อไปถึงบ้านท่าตอน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ระยะทาง 45 กิโลเมตร ในกรณีไม่ได้ขับรถมาเองให้ขึ้นรถประจำทางจากตัวเมืองเชียงรายไปต่อรถสองแถวที่ปากทางขึ้นดอยแม่สลอง


6. ดอยวาวี

           ดอยวาวี เป็นชุมชนขนใหญ่ของชาวจีนฮ่อ กองพล 93 ซึ่งอพยพเข้ามาตั้งหลักปักฐานราว 50 ปีมาแล้ว ยึดอาชีพปลูกชาและผลไม้ท่ามกลางบรรยากาศอันสงบเงียบและทิวทัศน์งามของดอยสูงเช่นเดียวกับชุมชนดอยแม่สลอง แม้หมู่บ้านจะมีขนาดเล็ก แต่ผู้มาเยือนจะได้สัมผัสกลิ่นอายชุมชนชาวจีนอันเรียบง่าย ราวกับอยู่ทางแถบยูนนานตอนใต้ของจีน ขณะที่พ้นหมู่บ้านออกไปบนดอยก็เขียวขจีด้วยไร่ชาที่ลดหลั่นตามลาดเขา ช่วยประดับทิวทัศน์ชุมชนและเทือกดอยให้งดงามชวนมอง ใกล้กับดอยวาวีมีจุดชมทะเลหมอกอยู่บน “ดอยกาดผี” ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของอำเภอแม่สรวย เมื่อขึ้นไปยืนที่ชะง่อนผาสูง 1,500 เมตร จะสามารถมองเห็นทะเลหมอกหนาทึบเต็มหุบเขา พร้อมกับภาพอลังการของขุนเขาสลับซับซ้อนตามแนวเทือกดอยช้าง ซึ่งดอยกาดผีอยู่ห่างจากดอยวาวีประมาณ 20 กิโลเมตร ตามเส้นทางค่อนข้างทุรกันดาร ระหว่างทางยังผ่านหมู่บ้านชาวอ่าข่าและเย้า

           สถานที่น่าแวะ เช่น ดอยช้าง เป็นที่ตั้งสถานีวิจัยเกษตรที่สูงและหมู่บ้านขาวเขา มีแปลงปลูกผลไม้เมืองหนาวให้เที่ยวชม เช่น เกาลัด บ๊วย ท้อ พลับ พลัม ฯลฯ และไร่กาแฟอาราบิก้า โดยสามารถลองชิมกาแฟสดได้ด้วย ส่วนสินค้าน่าซื้อก็มีทั้งชาอู่หลง ซึ่งชาวจีนฮ่อวาวีนำชาพันธุ์ชิงชิงและชาเบอร์ 12 มาปลูกเพื่อผลิตเป็นชาอู่หลงคุณภาพดีไม่แพ้ต้นตำรับจากไต้หวันจนได้รับความนิยม ลองชิมชากลิ่นหอมและซื้อเป็นของฝากได้


 7. วนอุทยานภูชี้ฟ้า 

ภูชี้ฟ้า

           วนอุทยานภูชี้ฟ้า เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นสุดฮอตของจังหวัดเชียงราย อยู่ห่างจากดอยผาตั้ง 25 กิโลเมตร มีลักษณะเป็นยอดเขาที่แหลมชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า อยู่สูงจากระดับทะเลประมาณ 1,628 เมตร โดยมีหน้าผาเป็นแนวยาวยื่นไปทางฝั่งประเทศลาว บนยอดภูชี้ฟ้าเป็นทุ่งหญ้ากว้าง ในฤดูหนาวจะมีทิวทัศน์สวยงามเป็นพิเศษ นักท่องเที่ยวส่วนมากจะมาค้างแรมบริเวณบ้านร่มฟ้าทองทาง ซึ่งห่างจากจุดชมวิวประมาณ 1.5 กิโลเมตร แล้วจะเดินขึ้นภูชี้ฟ้าเพื่อไปชมวิวตอนเช้ามืด ระหว่างทางจะพบแปลงปลูกป่านางพญาเสือออกดอกบานสะพรั่งสวยงาม (เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์) และในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ต้นเสี้ยวดอกขาวรอบภูชี้ฟ้าจะออกดอกบานเต็มเชิงเขา
           การเดินทางใช้เส้นทางเชียงราย-เทิง ระยะทาง 64 กิโลเมตร และจากเทิง-บ้านปี้ ระยะทาง 6 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 1155 ผ่านบ้านปางค่า บ้านเชงเม้ง เป็นทางลาดยาง ถึงภูชี้ฟ้าระยะทาง 42 กิโลเมตร หรือใช้ทางหลวงหมายเลข 1021 สายเทิง-เชียงคำ-บ้านฮวก ก่อนถึงเชียงคำ 6 กิโลเมตร มีทางแยกไปอุทยานแห่งชาติน้ำตกภูซาง อีก 19 กิโลเมตร แล้วเดินทางต่อไปยังภูชี้ฟ้าอีก 30 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวสามารถนำรถไปจอดไว้ที่ลานจอดรถวนอุทยานภูชี้ฟ้าแล้วเดินเท้าไปจุดชมวิวประมาณ 700 เมตร สอบถามรายละเอียดติดต่อได้ที่ สถานีขนส่งเชียงราย โทรศัพท์ 0 5371 1224 อบต.ตับเต่า โทรศัพท์ 0 5318 9111 และศูนย์บริการนักท่องเที่ยว โทรศัพท์ 0 5371 0195-6


 8. ดอยผาตั้ง

ดอยผาตั้ง

           ดอยผาตั้ง ตั้งอยู่ใกล้ทางหลวงหมายเลข 1093 กิโลเมตรที่ 89 เป็นจุดชมวิวไทย-ลาว มีความสูง 1,635 เมตร และเที่ยวชมทะเลหมอกได้ตลอดปี ซึ่งในเดือนธันวาคมถึงมกราคมมีดอกซากุระบาน และเดือนกุมภาพันธ์ก็จะมีดอกเสี้ยวบานสะพรั่งงดงาม นอกจากนี้ ยังเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวจีนฮ่อ ม้ง และเย้า โดยเฉพาะจีนฮ่อนั้น อดีตเคยเป็นส่วนหนึ่งของกองพล 93 ซึ่งอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่ดอยผาตั้งนี้ ปัจจุบันประกอบอาชีพทางการเกษตร ปลูกพืชเมืองหนาว เช่น บ๊วย ท้อ สาลี่ แอปเปิล และชา

           การเดินทางจากจังหวัดเชียงรายใช้เส้นทางเชียงราย-เวียงชัย-พญาเม็งราย-บ้านต้า ทางหลวงหมายเลข 1233, 1173 และ 1152 ระยะทาง 50 กิโลเมตร บ้านต้า-บ้านท่าเจริญ ทางหลวงหมายเลข 1020 ระยะทาง 45 กิโลเมตร บ้านท่าเจริญ-เวียงแก่น-ปางหัด ทางหลวงหมายเลข 1155 ระยะทาง 17 กิโลเมตร และปางหัด-ดอยผาตั้ง อีก 15 กิโลเมตร จุดชมวิวช่องผาบ่อง สามารถมองเห็นแม่น้ำโขงทอดตัวคดเคี้ยวในฝั่งลาว  หากเดินเท้าต่อไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร จึงจะถึงจุดชมวิว 103 ทั้งนี้ สภาพเส้นทางบางช่วงสูงชัน สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ จุดบริการนักท่องเที่ยวดอยผาตั้ง โทรศัพท์ 0 5391 8301 หรือ องค์การบริหารส่วนตำบลปอ โทรศัพท์ 0 5371 0300, 0 5391 8265


 9. ถนนคนเดินเชียงราย+ถนนคนม่วนเชียงราย

ถนนคนเดินเชียงราย

           จังหวัดเชียงราย ร่วมกับ เทศบาลนครเชียงราย จัดโครงการถนนคนเดินเชียงราย “กาดเจียงฮายรำลึก” เชิญชวนนักท่องเที่ยวและประชาชนร่วมสัมผัสวิถีชีวิตแบบล้านนาในอดีต ที่แสดงออกถึงวิถีชีวิต ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญา และสินค้าของดีของเชียงราย โดยจะจัดขึ้นทุกวันเสาร์ของเดือน ณ ถนนธนาลัย ตั้งแต่สี่แยกสำนักงานยาสูบฯ ไปจนถึงสี่แยกธนาคารออมสิน ขณะที่ทุกวันอาทิตย์ของเดือนจะมี “ถนนคนม่วนเชียงราย” ซึ่งอยู่บนถนนสันโค้งน้อย บริเวณการจัดงานแบ่งเป็นหลาย ๆ ส่วน โดยมีกลุ่มกิจกรรมต่าง ๆ ที่เข้าร่วมเป็นเครือข่ายร่วมกันจัดแสดงกิจกรรมมากมายตลอดเส้นทาง

           ทั้งนี้ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ถนนคนเดินเชียงราย และ chiangraitourism.org


 10. วัดพระแก้ว

วัดพระแก้ว

           วัดพระแก้ว ตั้งอยู่บริเวณถนนไตรรัตน์ ตำบลเวียง อำเภอเมือง เป็นวัดที่ค้นพบ พระแก้วมรกต หรือ พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ที่ประดิษฐานอยู่ ณ วัดพระแก้ว กรุงเทพฯ ในปัจจุบัน ตามประวัติเล่าว่าเมื่อ พ.ศ. 1897 ในสมัยพระเจ้าสามฝั่งแกนเป็นเจ้าเมืองเชียงใหม่นั้น ฟ้าได้ผ่าเจดีย์ร้างองค์หนึ่งและได้พบพระพุทธรูปลงรักปิดทองอยู่ภายในเจดีย์ จึงได้นำไปไว้ในวิหาร ต่อมาปูนบริเวณพระนาสิกเกิดกะเทาะออกมาจึงได้พบว่าเป็นพระพุทธรูปสีเขียวสร้างด้วยหยก คือ พระแก้วมรกต นั่นเอง

           ปัจจุบันชาวเชียงรายได้สร้างพระแก้วมรกตองค์ใหม่ขึ้นแทน เรียกว่า พระหยกเชียงราย หรือ พระพุทธรัตนากรนวุติวัสสานุสรณ์มงคล ซึ่งสร้างขึ้นในวโรกาสที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี มีพระชนมายุครบ 90 พรรษา ภายในวัดซีกกำแพงด้านทิศใต้ มีพิพิธภัณฑ์โฮงหลวงแสนแก้ว ลักษณะเป็นอาคารทรงล้านนาประยุกต์สองชั้น เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านศาสนาและวัฒนธรรมล้านนา รวบรวมจัดแสดงศิลปวัตถุที่สำคัญของวัด และสิ่งของที่มีผู้นำมาถวาย เช่น พระพุทธรูป พระธาตุ เครื่องใช้เกี่ยวกับศาสนาของล้านนา เช่น เครื่องบูชา ฉัตร  ตุง เครื่องเขิน เป็นต้น  สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0 5371 1385 หรือ watphrakaew-chiangrai.com



 11. สวนรุกขชาติดอยช้างมูบ

สวนรุกขชาติดอยช้างมูบ

           ช้างมูบ เป็นชื่อดอยที่สูงที่สุดของเทือกเขานางนอน คือ ประมาณ 1,500 เมตรจากระดับน้ำทะเล มีอากาศเย็นสดชื่นตลอดปี พื้นที่บริเวณนี้เคยเป็นดงฝิ่นที่ใหญ่ที่สุด และเป็นการเส้นทางลำเลียงยาเสพติดหลักในภูมิภาค สภาพป่าจึงถูกทำลายจนหมดสิ้น ต่อมาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงมีพระราชประสงค์ให้ฟื้นฟูผืนป่าแถบนี้ให้อุดมสมบูรณ์อีกครั้ง โครงการพัฒนาดอยตุงฯ จึงพัฒนาพื้นที่ให้เป็นสวนรุกขชาติ รวบรวมพรรณไม้พื้นเมืองและพรรณไม้ป่าหายาก กุหลาบพันปีจากหลายประเทศ ต้นนางพญาเสือโคร่ง กล้วยไม้พื้นเมือง รองเท้านารี ฯลฯ ปลูกอยู่ในสวนอย่างเป็นธรรมชาติกลางป่าสน มีเส้นทางการเดินลัดเลาะตามไหล่เขา มีลานสำหรับพักผ่อน ชมทิวทัศน์ได้รอบตัว แลเห็นได้ถึงประเทศเพื่อนบ้าน และลำน้ำโขง


 12. อนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช

           ตั้งอยู่ที่ห้าแยกพ่อขุน อำเภอเมือง เส้นทางที่จะไปอำเภอแม่จันหรือแม่สาย สำหรับพ่อขุนเม็งรายเป็นกษัตริย์องค์ที่ 25 แห่งราชวงศ์ลัวะจังคราช เป็นโอรสของพญาลาวเม็ง และพระนางเทพคำขยาย หรือพระนางอั้วมิ่งจอมเมือง ประสูติเมื่อวันอาทิตย์ แรม 9 ค่ำ เดือนอ้าย ปีกุน พุทธศักราช 1782 เสด็จสวรรคตที่เมืองเชียงใหม่ใน พ.ศ.1854 พ่อขุนเม็งรายได้สร้างเมืองเชียงรายขึ้นบนดอยทอง จากรากฐานเดิมที่เคยเป็นเมืองมาก่อน เมื่อ พ.ศ.1805 ทรงเป็นปฐมกษัตริย์ แห่งราชวงศ์เม็งราย และรวบรวมบ้านเล็กเมืองน้อยเข้าเป็นอาณาจักรล้านนาไทยจนเจริญรุ่งเรืองถึงปัจจุบัน
           โดยประชาชนชาวเชียงรายร่วมใจกันสร้างอนุสาวรีย์ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระเกียรติคุณของพ่อขุนเม็งราย ปั้นโดย นายปกรณ์ เล็กฮอน และทำพิธีเปิดอนุสาวรีย์เมื่อวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2507 สำหรับลักษณะของอนุสาวรีย์ คือ เป็นพระรูปของพระองค์หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ขนาดเท่าครึ่ง ทรงฉลองพระองค์ด้วยเครื่องทรงพระมหากษัตริย์ล้านนาโบราณ ประทับยืนบนฐานสูงประมาณ 3 เมตร ทรงถือดาบด้วยพระหัตถ์ซ้ายแนบกับพระเพลา ทรงสวมมาลัยพระกร ทรงสวมธำมรงค์ที่พระหัตถ์ขวาตรงนิ้วนางและนิ้วก้อย ที่พระหัตถ์ซ้ายตรงนิ้วชี้ และทรงฉลองพระบาท ปัจจุบันมีตุงหลวงเฉลิมพระเกียรติประดับอยู่ทางด้านหลังอนุสาวรีย์ด้วย และที่ตรงฐานใต้พระบรมรูปมีคำจารึกว่า "พ่อขุนเม็งรายมหาราช พ.ศ. 1782-1860 ทรงสร้างเมืองเชียงรายขึ้นเป็นเมืองแรกเมื่อ พ.ศ. 1805 ทรงสถาปนาอาณาจักรล้านนาไทยให้เป็นปึกแผ่น และทรงสร้างความสามัคคีระหว่างชนชาติไทย"

           ทั้งนี้ กู่พระเจ้าเม็งราย ตั้งอยู่หน้าวัดงำเมือง บนดอยงำเมือง กู่นี้เป็นอนุสาวรีย์สำคัญแห่งหนึ่ง เพราะเป็นที่บรรจุอัฐิของพ่อขุนเม็งรายมหาราช ตามประวัติกล่าวว่า พระเจ้าไชยสงคราม ราชโอรสพระเจ้าเม็งราย เมื่อได้มอบราชสมบัติให้พระเจ้าแสนภูราชโอรสขึ้นครองนครเชียงใหม่แล้ว พระองค์ได้นำอัฐิพระราชบิดามาประทับอยู่ที่เมืองเชียงราย และได้โปรดเกล้าฯ สร้างกู่บรรจุอัฐิของพระราชบิดาไว้ ณ ดอยงำเมืองแห่งนี้ 

 13. พิพิธภัณฑ์บ้านดำ

พิพิธภัณฑ์บ้านดำ

           พิพิธภัณฑ์บ้านดำ ตั้งอยู่ที่ตำบลนางแล อำเภอเมือง สร้างขึ้นโดย อาจารย์ถวัลย์ ดัชนี นับเป็นแหล่งเรียนรู้อันทรงคุณค่าทางศิลปวัฒนธรรมแบบร่วมสมัย ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น โดยภายในบ้านมีสิ่งก่อสร้าง ทั้งวิหาร บ้าน ศาลา ห้องแสดงผลงาน ฯลฯ รวมทั้งสิ้น 43 สิ่งก่อสร้าง เช่น วิหารเล็ก, มหาวิหาร (อาคารพิพิธภัณฑ์ศิลปะ), บ้านสามเหลี่ยม (ที่พักรับรองนักเขียน ลูกศิษย์ และห้องทำงาน), เรือนผกายแก้ว, เรือนเชียงทองทาทาบรุ้ง, อูปปรภพ (ห้องจิตวิญญาณ) และบ้านดำแกลลอรี่ (ศูนย์ข้อมูลและร้านจำหน่ายของที่ระลึก) สอบถามเพื่อเข้าชม โทรศัพท์ 0 5370 5834, 0 5377 6333, 08 1673 1155 หรือ thawan-duchanee.com


 14. ดอยหัวแม่คำ

ดอยหัวแม่คำ

           ดอยหัวแม่คำ อยู่สูงจากระดับทะเล 1,850 เมตร เป็นที่ตั้งหมู่บ้านชาวเขาขนาดใหญ่ ประกอบด้วยเผ่าลีซอ เป็นกลุ่มชนส่วนใหญ่ นอกจากนี้ ยังมีอีก้อ ม้ง และมูเซอ ในช่วงเวลาซึ่งตรงกับตรุษจีนของทุกปี ชาวลีซอจะจัดงานประเพณีกินวอ ซึ่งเปรียบเสมือนวันขึ้นปีใหม่ ในวันนั้นชาวลีซอแต่งกายสวยงาม มีการกินเลี้ยง เต้นระบำ 7 วัน 7 คืน และในเดือนพฤศจิกายนเป็นช่วงที่ดอยหัวแม่คำงดงามไปด้วย “ดอกบัวตอง” สีเหลืองสดใสสะพรั่งอยู่ทั่วไปตามแนวเขา เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอก

           การเดินทางจากเชียงรายใช้เส้นทางเดียวกับทางขึ้นดอยแม่สลองสายเก่า ทางหลวงหมายเลข 1130 แล้วเลี้ยวขวาที่สามแยกอีก้อ ผ่านบ้านเทอดไทย ไปจนถึงบ้านแม่คำ ห่างจากตัวเมืองเชียงราย 100 กิโลเมตร บ้านหัวแม่คำอยู่เกือบสุดชายแดน เส้นทางเป็นทางลูกรังคดโค้งไปตามทิวเขา ใช้เวลาเดินทางราว 3 ชั่วโมง

 15. ล่องแม่น้ำกก

ล่องแม่น้ำกก

           แม่น้ำกก เป็นแม่น้ำที่ไหลมาจากบ้านท่าตอนผ่านตัวเมืองเชียงราย มีความยาวรวมทั้งสิ้น 130 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวสามารถเช่าเรือจากท่าเรือริมแม่น้ำในตัวเมือง (ท่าเรือซีอาร์) เพื่อเที่ยวชมทัศนียภาพของแม่น้ำกก สองฟากฝั่งเป็นป่าเขาที่สวยงามตามธรรมชาติ นอกจากนี้ ระหว่างทางยังสามารถแวะชมหมู่บ้านชาวเขาเผ่าต่าง ๆ เช่น อีก้อ ลีซอ หรือจะแวะบ้านกะเหรี่ยงรวมมิตรเพื่อนั่งช้างเที่ยวป่ารอบบริเวณ


           และนี่ก็คือ 15 สถานที่ท่องเที่ยวเชียงรายที่เราหยิบมาแนะนำกัน หากใครมีโอกาสไปเยือนดินแดนเหนือสุดในสยาม ชายแดนสามแผ่นดิน ถิ่นวัฒนธรรมล้านนา ล้ำค่าพระธาตุดอยตุง ก็ไม่ควรพลาดไปสัมผัสกันดูนะคะ โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานเชียงราย โทรศัพท์ 0 5371 7433, 0 5370 0051-2 และ 0 5371 7434 ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น.

วันเสาร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2560

20 ที่เที่ยวเชียงใหม่และที่กินอร่อย ๆ ต้องไปโดน


          แนะนำ 10 ที่เที่ยวเชียงใหม่ 10 ร้านอาหารเชียงใหม่ อร่อย ๆ บอกเลยมาเยือนจังหวัดนี้ห้ามพลาด
          เชียงใหม่ เมืองท่องเที่ยวยอดฮิตที่ใครต่อใครต่างหมายมุ่งที่จะแวะเวียนมาเยี่ยมเยือน เพราะเป็นเมืองที่มากล้นไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ ครบครันไปด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ศิลปวัฒนธรรมที่งดงาม โบราณสถาน และวัดวาอารามที่วิจิตรตระการตา ฯลฯ วันนี้กระปุกดอทคอมจึงอยากชวนเพื่อน ๆ ที่มีใจรักการท่องเที่ยวทั้งหลายสะพายเป้แบกกล้องออกไปแอ่วเวียงเจียงใหม่กับ 10 สถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่น่าสนใจ รับรองได้ว่าจะม่วนอกม่วนใจ๋ขนาดเจ้า อ๊ะ ๆ ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น ก็แหม...เที่ยวแล้วก็ต้องหาของอร่อย ๆ กินให้หนำใจซะหน่อย เพราะนอกจากจะเป็นเมืองฮอตฮิตแล้ว ที่นี่ยังขึ้นชื่อในเรื่องอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ทำให้หลายคนไม่พลาดที่จะแวะชิมอาหารอร่อย ๆ กับ 10 ร้านอาหารเชียงใหม่ ที่ไม่ควรพลาดมาฝากกัน รับรองว่าลำแต้ ๆ เจ้า โดยเริ่มกันที่…
10 ที่เที่ยวเชียงใหม่ พลาดแล้วจะเสียใจ ม่วนอกม่วนใจ๋ขนาด

1. วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร

เชียงใหม่

          นับเป็นวัดเก่าแก่ที่มีความศักดิ์สิทธิ์มากวัดหนึ่งของประเทศไทย ซึ่งมีความสำคัญในแง่ประวัติศาสตร์ เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองที่ห้ามพลาดเมืองมาถึงจังหวัดเชียงใหม่ ภายในเป็นที่ประดิษฐานขององค์เจดีย์ทรงมอญ ที่ใต้ฐานพระเจดีย์มีพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบรรจุ อยู่ ซึ่งจัดได้ว่าเป็นปูชนียสถานที่แสดงออกถึงศิลปกรรมล้านนาไทยที่สำคัญคู่ เมืองเชียงใหม่มาช้านาน โดยนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นมาชมความงดงามขององค์เจดีย์พร้อมกับชมทิวทัศน์ โดยรอบของตัวเมืองเชียงใหม่ได้ โดยสามารถเดินขึ้นบันไดนาค 300 ขั้น เพื่อไปยังวัด หรือจะเลือกใช้บริการรถกระเช้าขึ้น-ลงดอยสุเทพก็ได้ตามสะดวก 

          ที่อยู่ : ถนนศรีวิชัย ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ 50200
          โทรศัพท์ : 0 5329 5012
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05.00-20.00 น.
          เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร Doi Suthep


2. วัดศรีสุพรรณ


          พระอุโบสถสุดอลังการที่สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2043 ในรัชสมัยของพระเจ้าเมืองแก้ว ภายในเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธปาฏิหาริย์ (พระเจ้า 500 ปี) เดิมทีอุโบสถหลังนี้ชำรุดทรุดโทรมมาก ภายหลังได้มีการสร้างอุโบสถใหม่ขึ้นเป็นอุโบสถเงิน โดยมีสถาปัตยกรรมแบบล้านนาโบราณ มีโครงสร้างก่ออิฐถือปูนและมีการประดับตกแต่งลวดลายทุกส่วนด้วยอลูมิเนียม และเงิน พร้อมมีการสลักลวดลายภาพสามมิติที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธศิลป์ปริศนาธรรม คำสอนในทางพระพุทธศาสนา ประวัติศาสตร์ของวัดและชุมชน เรียกได้ว่าเป็น "อุโบสถที่ทำจากเงินและอลูมิเนียมหลังแรกของโลก" เลยก็ว่าได้ สามารถเดินทางมาชื่นชม ถ่ายรูปกันได้ สวยงามมากจริง ๆ ค่ะ

          ที่อยู่ : ถนนวัวลาย ตำบลหายยา อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
          โทรศัพท์ : 0 5327 4705, 08 4177 1411, 08 4615 9801 
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-19.00 น.
          เว็บไซต์ : watsrisuphan.com และ เฟซบุ๊ก วัดศรีสุพรรณ ถนนวัวลาย เชียงใหม่ ไทยแลนด์

3. สถานีวิจัยเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน
เชียงใหม่



          นับเป็นอาณาจักรของต้นพญาเสือโคร่งเลยก็ว่าได้ โดยในช่วงปลายเดือนธันวาคมถึงต้นกุมภาพันธ์ที่นี่จะเต็มไปด้วยเหล่าซากุระ เมืองไทยหรือดอกพญาเสือโคร่งที่พากันเบ่งบานชูช่ออวดสีชมพูสวยไปทั่วทั้ง บริเวณ นับเป็นสวรรค์บนดินอีกแห่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาถึงเชียงใหม่ โดยนักท่องเที่ยวสามารถมาเดินเล่นเก็บบรรยากาศความหนาวเย็นแบบชิล ๆ พร้อมกับถ่ายรูปเซลฟี่ของตัวเองคู่กับเหล่าซากุระเมืองไทยกันได้ รับรองจะได้ภาพที่สวยจนเพื่อน ๆ ต้องอิจฉาแน่นอน นอกจากนี้ภายในสถานีฯ ยังมีพื้นที่ปลูกบ๊วย ท้อ และกาแฟ ให้ได้เดินชิลหรือแวะชมกันแบบจุใจอีกด้วย 

          ที่อยู่ : สถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่   
          โทรศัพท์ : 0 5394 4052, 0 5322 2014
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน (ดอกพญาเสือโคร่งจะบานสะพรั่งในช่วงปลายเดือนธันวาคม-ต้นกุมภาพันธ์)
          เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก ขุนช่างเคี่ยน  

4. ถนนคนเดินวัวลาย

 
          หรือที่เรียกกันจนติดปากว่า "ถนนคนเดินวันเสาร์" พอจะคุ้นหูกันขึ้นมาบ้างแล้วใช่ไหมล่ะคะ โดยบริเวณถนนแห่งนี้เป็นย่านของชุมชนเก่าแก่บ้านศรีสุพรรณ หมู่บ้านทำเครื่องเงินฝีมือดี และในทุกค่ำคืนของวันเสาร์ถนนสายนี้จะคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวหลากหลาย เชื้อชาติที่หมายมุ่งมาละลายทรัพย์จับจ่ายสินค้าพื้นเมือง งานฝีมือ ของที่ระลึกน่ารัก ๆ รวมไปถึงอาหารคาว-หวานแสนอร่อยกันอย่างเพลิดเพลิน นอกจากนี้ยังมีการแสดงเล็ก ๆ น้อย ๆ เรียงรายตลอดสองข้างทางที่คอยสร้างบรรยากาศให้ถนนมีความครึกครื้นมากยิ่ง ขึ้น มาเที่ยวกันได้เลย รับรองไม่ผิดหวัง

          ที่อยู่ : ตำบลหายยา ถนนวัวลาย (เริ่มตั้งแต่ปากทางเข้าฝั่งถนนช่างหล่อ ใกล้ประตูเชียงใหม่ จนไปสิ้นสุดที่ถนนทิพย์เนตร)
          โทรศัพท์ : 0 5399 8333
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดเฉพาะวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 17.00-22.00 น.
          เว็บไซต์ : สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่
 

5. ถนนคนเดินท่าแพ

เชียงใหม่
ภาพจาก 501room/shutterstock.com
          แหล่งละลายทรัพย์ชั้นยอดที่เปิดขายของชั้นเยี่ยม พร้อมให้นักท่องเที่ยวได้ช้อป ชิล ชมกันแบบเต็มอิ่มกับสินค้าหลากหลายชนิด อาทิ งานฝีมือ เครื่องประดับ ผ้าทอมือ งานไม้แกะสลัก ฯลฯ เรียกได้ว่าช้อปกับแบบจุใจตลอดถนนพระปกเกล้าเรื่อยไปจนถึงถนนราชดำเนินเลยที เดียว นอกจากนี้หากท้องร้องก็สามารถแวะชิมของอร่อยขึ้นชื่อที่มีให้เลือกมากมาย ละลานตา ทั้งข้าวปุกงาดำ หมูยอ ไส้อั่ว ขนมจีน ฯลฯ ได้ทั้งของถูกใจแถมเพลินพุงกลับไปด้วย ไม่มาไม่ได้แล้ว

          ที่อยู่ : จากประตูท่าแพเรื่อยไปตามถนนราชดำเนินจนถึงวัดพระสิงห์ฯ และจากสี่แยกกลางเวียงเรื่อยไปจนถึงอนุสาวรีย์สามกษัตริย์และวัดเจดีย์หลวง วรวิหาร
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดเฉพาะวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 17.00-23.00 น.
          เว็บไซต์ : สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่
 
          
6. คุ้มเสือแม่ริม
 
          ที่ที่จะทำให้คุณได้ยลโฉมเจ้าเสือร่างใหญ่ลายพลาดกลอนแบบใกล้ชิด ซึ่งที่นี่จะมีพี่เลี้ยงคอยป้อนอาหารและมีการคลุกคลีกับเจ้าเสือใหญ่มา ตั้งแต่ยังเป็นเบบี๋ จึงทำให้เกิดความคุ้นชินกับคน ฉะนั้นไม่ต้องกังวลว่าจะมีการทำร้ายร่างกายกันเกิดขึ้น สามารถแตะเนื้อต้องตัว รูปหัว กอดหอม ถ่ายรูปคู่ได้แบบหายห่วง โดยจะมีเสือให้ได้สัมผัสหลายช่วงอายุตั้งแต่วัย 2-5 เดือน 6-9 เดือน และรุ่นใหญ่อย่าง 10-20 เดือน ราคาเข้าชมก็แตกต่างกันไปตามช่วงอายุ นอกจากนี้ยังสามารถหาของอร่อย ๆ รองท้องกันได้ในโซนอาหาร พร้อมกับแวะซื้อของที่ระลึกติดไม้ติดมือกลับไปได้อีกด้วย 

          ที่อยู่ : เขตเทศบาลแม่ริม ตำบลริมใต้ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ 
          โทรศัพท์ : 0 5329 9363, 0 5386 0704
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น.
          เว็บไซต์ : www.tigerkingdom.com และ เฟซบุ๊ก Tiger Kingdom

7. Balloon Adventure Thailand

          สัมผัสประสบการณ์สุดผจญภัยเหนือน่านฟ้าบนบอลลูนขนาดใหญ่มหึมา โดยคุณจะถูกพาลอยขึ้นไปเรื่อย ๆ ตามกระแสลมกำหนดที่ความสูงประมาณ 2,000 เมตร ซึ่งจะใช้เวลาในการลอยประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ระหว่างช่วงเวลาที่ลอยไปเรื่อย ๆ คุณจะได้สัมผัสกับอากาศที่แสนบริสุทธิ์ พร้อมกับได้ชมทิวทัศน์ในมุมกว้างถึง 360 องศา สามารถมองเห็นวิวเมืองเชียงใหม่ได้แบบเต็มตา และในช่วงท้ายคุณจะได้ลุ้นระทึกจนหัวใจเต้นรัว เพราะไม่รู้ว่าบอลลูนจะไปหยุดที่ตรงไหน พร้อมกับตื่นเต้นเร้าใจในวินาทีสุดท้ายที่บอลลูนจะลงสัมผัสกับพื้นเรียกได้ ว่าหายใจไม่ทั่วท้องกันเลยทีเดียว ที่สำคัญที่นี่เขาแจกใบประกาศนียบัตรประกาศความหาญกล้าให้เก็บไว้เป็นที่ ระลึกอีกด้วยนะ ไม่น่ากลัวอย่างที่คิดหรอกมาลองดูก่อนแล้วจะติดใจ 

          ที่อยู่ :  ถนนเชียงใหม่-ดอยสะเก็ด กิโลเมตรที่ 9 อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่
          โทรศัพท์ : 08 4611 4128
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 
          เว็บไซต์ : www.balloonadventurethailand.comเฟซบุ๊ก A Day with Balloon และเทศบาลตำบลดอยสะเก็ด

 
8. เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี

เชียงใหม่
ภาพจาก chiangmainightsafari.com

          สวนสัตว์กลางคืนแห่งแรกของประเทศไทยที่พร้อมให้คุณตื่นตาตื่นใจกับอาณาจักร ของสัตว์หลากหลายชนิด ทั้งเสือสายพันธุ์หายากกว่า 10 ชนิด และไฮไลท์สุดเด็ดอย่าง "สิงโตขาว" ที่มีเหลืออยู่ในธรรมชาติเพียง 200 ตัวในโลกเท่านั้น พร้อมสัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่ที่ไม่เหมือนใครกับการนั่งรถ Tram ที่จะพาคุณบุกตะลุยผืนป่าที่กว้างใหญ่ออกไปทำความรู้จักกับสัตว์น้อยใหญ่ นานาชนิดสุดแสนน่ารัก พร้อมอธิบายเกร็ดความรู้ประกอบไปตลอดทาง นับเป็นการเที่ยวสวนสัตว์ในรูปแบบใหม่ที่สนุกสนานปนตื่นเต้นเร้าใจ น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว 

          ที่อยู่ : ตำบลหนองควาย อำเภอหางดง ถนนราชพฤกษ์ เข้าทางเดียวกับสวนเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์
          โทรศัพท์ : 0 5399 9000
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00-22.00 น.
          เว็บไซต์ : www.chiangmainightsafari.com และ เฟซบุ๊ก Chiang Mai Night Safari
 

9. ชุมชนบ้านแม่กำปอง

          หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ก่อตั้งมาประมาณ 100 กว่าปี ประชากรส่วนใหญ่อพยพมาจากอำเภอดอยสะเก็ด เพื่อเข้ามาทำสวนเมี่ยงเป็นอาชีพ และตั้งบ้านเรือนบริเวณใกล้ ๆ แม่น้ำลำห้วย โดยในสมัยก่อนมีดอกไม้ชนิดหนึ่งที่มีลักษณะดอกสีเหลือง-แดงขึ้นอยู่ตามริม แม่น้ำลำห้วย เรียกว่า "ดอกกำปอง" จึงได้นำมาเป็นชื่อของหมู่บ้านที่เรียกตามชื่อของดอกไม้รวมกับแม่น้ำเป็น "บ้านแม่กำปอง" ภายในชุมชนได้เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ พร้อมมีที่พักแบบโฮมสเตย์ให้บริการ นอกจากนี้ยังมีของดีของเด็ดมากมาย อาทิ โบสถ์กลางน้ำ (อุทกสีมา) เก่าแก่อายุกว่า 100 ปี, พืชพรรณหายาก, สวนเมี่ยง, สวนกาแฟ, ดอยม่อนล้าน, ผลิตภัณฑ์หมอนใบชา, การทำบายศรีสู่ขวัญ, การแสดงศิลปวัฒนธรรมต่าง ๆ ฯลฯ แวะมาสัมผัสวิถีชีวิตและวัฒนธรรมอันแสนอบอุ่นของชุมชนนี้ได้ รับรองว่าจะประทับใจมิรู้ลืม

          ที่อยู่ : หมู่ 3 ตำบลห้วยแก้ว อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ 50130
          โทรศัพท์ : 0 5322 9526, 08 5675 4598
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน
          เว็บไซต์ : www.mae-kampong.com

10. The Peak Adventure (กิจกรรมปีนหน้าผา)


          กิจกรรมสุดมันที่น่าตื่นเต้นเร้าใจกับการปีนหน้าผาของจริงท่ามกลางธรรมชาติ ซึ่งเป็นหน้าผาหินปูนที่มีความสูงชันประมาณ 60-80 เมตร ใครที่มาเยือนจังหวัดเชียงใหม่ห้ามพลาดขอบอก ซึ่งการปีนหน้าผาแห่งนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความท้าทาย ชอบการปีนเขา ชอบสัมผัสกับธรรมชาติ และไม่จำกัดว่าต้องมีประสบการณ์เท่านั้นถึงจะปีนได้ ที่นี่เปิดโอกาสให้ทุกท่านได้ทดสอบพละกำลังกันได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งยังมีผู้เชี่ยวชาญเรื่องการปีนเขาคอยดูแลความปลอดภัยเป็นอย่างดี ใครที่ไม่เคยลองต้องลอง มาวัดพลังกันดูซิว่าใครจะแน่กว่ากัน !
          
          ที่อยู่ : ถ้ำเมืองออน อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่
          โทรศัพท์ : 0 5380 0567-8
          เว็บไซต์ : www.thepeakadventure.com และ เฟซบุ๊ก The Peak Adventure
 

          นับ เป็นเมืองน่าฮักที่ซุกซ่อนความสุขไว้ทุกอณูจริง ๆ เลยว่าไหมคะ ดังนั้นใครที่กำลังโหยหาความสุขและรักการท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ "เชียงใหม่" ไม่ทำให้คุณผิดหวังอย่างแน่นอน ^^ เอาล่ะ...เที่ยวกันเพลิน ๆ ก็ถึงเวลาไปหาอะไรอร่อย ๆ หม่ำซะหน่อย โดยเริ่มที่...

เชียงใหม่


10 ร้านอาหารเมืองเชียงใหม่ อร่อยล้ำลำแต้ ๆ

1. ร้านคุ้มขันโตก

เชียงใหม่
ภาพจาก khumkhantoke.com

          มาเริ่มความอร่อยกันที่ร้านแรกกับ "ร้านคุ้มขันโตก" ร้านอาหารพื้นบ้านสไตล์ล้านนา บรรยากาศเหมือนย้อนเข้าไปอยู่ในเมืองล้านนาในอดีตที่ให้เราสามารถทานอาหารไป พร้อม ๆ กับชมการแสดงจากเวที ซึ่งถือเป็นการเปิดพื้นที่เพื่อเป็นการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมที่ดีงาม ภายในร้านแบ่งสถานที่ออกเป็น 6 โซน ได้แก่ ลานขันโตก, เรือนพลับพลา, ช่วงคนเมือง, ลานกล้วยไม้, ห้องลีลาวดี และคุ้มคำ ซึ่งแต่ละโซนจะจัดสถานที่ให้สัมผัสวิถีชีวิตความเป็นอยู่และธรรมชาติของ เมืองเชียงใหม่ที่แตกต่างกัน ส่วนเมนูอาหารของร้านเป็นอาหารพื้นเมืองแบบขันโตกสามารถสั่งจองล่วงหน้าได้ ที่www.likehotelthailand.coml สำหรับเมนูเด็ดแนะนำของร้าน ได้แก่ แกงฮังเล, น้ำพริกหนุ่ม, น้ำพริกอ่อง, เนื้อปลากะพงชุบแป้งทอด และซี่โครงหมูทอด เป็นต้น

          เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 18.30-21.00 น.
          ที่อยู่ : 139 หมู่ 4 ตำบลหนองป่าครั่ง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
          โทรศัพท์ : 0 5330 4121, 0 5327 7845-50
          เว็บไซต์ : khumkhantoke.com และ เฟซบุ๊ก คุ้มขันโตก เชียงใหม่

2. ร้านเฮือนเพ็ญ

          ร้านอาหารที่โด่งดังอยู่ในลิสต์อันดับต้น ๆ ของเมืองเชียงใหม่ เปิดบริการมามากกว่า 40 ปี ตัวร้านเป็นบ้านไม้ขนาดเล็ก ๆ ภายในเน้นการตกแต่งแบบเรียบง่ายให้ความรู้สึกเหมือนมานั่งทานอยู่ที่บ้าน นอกจากนี้ยังถือเป็นร้านที่เน้นการบริการอาหารพื้นเมืองแท้ ๆ ที่เน้นความใส่ใจตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบ เครื่องปรุง และการบริการ ทำให้ที่นี่เป็นที่รู้จักของคนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวจำนวนมาก  สำหรับเมนูเด็ดอร่อย  ๆ ของร้านก็มีให้เลือกหลายอย่าง อาทิ ขนมจีนน้ำเงี้ยว, ไส้อั่ว, ข้าวซอย, น้ำพริกหนุ่ม และข้าวเหนียวส้มตำ เป็นต้น

          เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 08.30-22.00น.
          ที่อยู่ : 112 อาคาร บริเวณสถานีตำรวจวัดพระสิงห์ ถนนราชมรรคา ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
          โทรศัพท์ : 0 5381 4548 , 0 5327 7103

          รีวิว

          เฮือนเพ็ญ อาหารเหนือ เชียงใหม่

          * + * + * + * รีวิวร้านเฮือนเพ็ญ ร้านอาหารพื้นเมืองของเชียงใหม่ * + * + * + *

          eat.edtguide.com/ร้านเฮือนเพ็ญ


3. ร้านอ๋องทิพย์รส

          ร้านก๋วยเตี๋ยวชื่อดังที่เปิดให้บริการมาอย่างยาวนานกว่า 30 ปี ตัวร้านเป็นตึกแถวขนาด 1 คูหา มีครัวอยู่หน้าร้าน แถมโดดเด่นด้วยเมนูก๋วยเตี๋ยวกับลูกชิ้นขนาดเล็ก จนได้หลายคนเรียกว่า “ลูกชิ้นหัวนม” และเพลิดเพลินไปกับพนักงานรับออเดอร์และคิดราคาอาหารของร้านที่จำแม่นมาก ๆ แบบไม่ต้องจดกันเลยทีเดียว ส่วนบรรยากาศภายในร้านตกแต่งแบบเรียบง่าย และนอกจากเมนูก๋วยเตี๋ยวแล้วที่นี่ยังมีขนมจีบ ซาลาเปาไว้บริการอีกด้วย 

          เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 17.00-04.00 น.
          ที่อยู่ : 179/3 ถนนพระปกเกล้า ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
          โทรศัพท์ : 0 5321 2712

          รีวิว

          reviewchiangmai.com/ร้านอ๋องทิพย์รส


4. ร้านข้าวซอยเสมอใจ


          ข้าวซอยเสมอใจร้านอาหารพื้นเมืองเชียงใหม่ ภายในเปิดโล่งภายในตึกแถว 2 คูหา แต่ออกแบบอาคารให้โล่งกว้างขวาง ตกแต่งแบบเรียบง่าย ส่วนเมนูอาหารของร้านก็นอกจาก "ข้าวซอย" ที่เป็นอาหารพื้นเมืองที่มีรสชาติเข้มข้นแล้ว ยังมีเมนูแนะนำอื่น ๆ อีกหลายชนิด เช่น แกงฮังเล, แกงโฮะ, ตำขนุน ไส้อั่ว, น้ำพริกอ่อง, น้ำพริกหนุ่ม, แคบหมู และขนมจีนน้ำเงี้ยว เป็นต้น

          เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.
          ที่อยู่ : ถนนเจริญราษฎร์ (ข้างวัดฟ้าฮ่าม) ตำบลฟ้าฮ่าม อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
          โทรศัพท์ : 08 1950 9067, 0 5324 2928, 08 1764 8723
          เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก ข้าวซอยเสมอใจฟ้าฮ่าม 

          รีวิว

          [CR]Review ร้าน "ข้าวซอย เสมอใจฟ้าฮ่าม" @เชียงใหม่ (By Shim-pa)

          reviewchiangmai.com/ร้านข้าวซอยเสมอใจ

5. ร้านข้าวซอยนิมมาน 

เชียงใหม่

          ร้านข้าวซอยแสนอร่อยอันดับต้น ๆ ของเมืองเชียงใหม่ แถมยังเป็นร้านที่บรรดาคนดังแวะเวียนไปทานเสมอ บรรยากาศภายในร้านเน้นการตกแต่งในสไตล์ล้านนาตัวร้านออกแบบให้เป็นบ้านหลัก เล็กแบ่งโซนที่นั่งออกเป็น 2 ส่วน คือ โซนหน้าร้านสำหรับนักรับลมธรรมชาติและโซนในร้านสำหรับรับแอร์เย็น ๆ ส่วนเมนูอาหารจานเด็ดของร้านก็มีให้เลือกมากมาย เช่น ข้าวซอยไส้อั่ว, ข้าวซอยทะเล, ข้าวซอยไข่เจียว, น้ำพริกหนุ่ม, ไส้อั่ว, แคบหมู และแกงฮังเล เป็นต้น

          เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 11.00-20.00 น.
          ที่อยู่ : ถนนนิมมานเหมินทร์ ซอย 7 อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
          โทรศัพท์ : 08 8090 1370 
          เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก ข้าวซอยนิมมาน

          รีวิว

          ...ร้านข้าวซอยนิมมาน...


6. ร้านสวนอาหารบ้านเพลง ฌอ กะ เฌอ

เชียงใหม่

          ร้านอาหารบรรยากาศร่มรื่นด้วยการตกแต่งต้นไม้ ลักษณะของร้านออกแบบให้เป็นบ้านสีขาวให้บรรยากาศอบอุ่นเหมือนนั่งทานอาหาร อยู่ที่บ้าน แบ่งโซนที่นั่งออกเป็น 2 ส่วน คือ โซนหน้าบ้านสำหรับนั่งรับลมเย็นแบบใกล้ชิดธรรมชาติ และโซนภายในบ้านที่สามารถทานอาหารไปพร้อมกับการฟังดนตรีสด ๆ หรือร้องคาราโอเกะแบบเป็นกันเอง สำหรับเมนูอาหารของร้านมีทั้งอาหารไทยและอาหารพื้นเมืองเหนือหลากหลายเมนู ให้เลือก พร้อมเครื่องดื่มสารพัดชนิดให้คุณได้เลือกชิม ทั้งน้ำผลไม้สด ผลไม้ปั่น หรือเมนูเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็มีให้เลือกดื่ม ส่วนเมนูเด็ดแนะนำของร้าน ได้แก่ ยำถั่วพูกุ้งสด, ยำเห็ดเข็มทองทอดกรอบ, เมี่ยงปลา, ยำเซี่ยงไฮ้, กุ้งกระจก, ปลาคำหวาน และปูนิ่มอบวุ้นเส้น  เป็นต้น

          เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 11.00-24.00 น.
          ที่อยู่ : 270 หมู่ 4 (ร้านอยู่ติดกับชยารีโฮม ทางไปมหาวิทยาลัยแม่โจ้) ตำบลหนองจ๊อม อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่
          โทรศัพท์ : 08 9263 9773, 09 1027 9147
          เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก สวนอาหารบ้านเพลง ฌอ กะ เฌอ Sho Ka Sher

7. ร้านครัวอาจารย์สายหยุด

          ร้านอาหารขนาดเล็กที่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้เก่าและโดยรอบของร้านด้วยการ ปลูกผักสวนครัว ทำให้ความรู้สึกเหมือนนั่งทานอาหารอยู่ภายในบ้านของตัวเอง สำหรับเมนูอาหารของ "ครัวอาจารย์สายหยุด" จะเน้นอาหารไทยโบราณและอาหารปักษ์ใต้ เป็นหลักการันตรีด้วยความชำนาญของเจ้าของร้านที่มีดีกรีเป็นอดีตอาจารย์สอน ทำอาหาร สำหรับเมนูแนะนำของร้าน ได้แก่ หรุ่มหรือล่าเตียง, ช่อม่วง, น้ำพริกไข่ปู, เชียงดาผัดไข่, แกงคั่วหอยขม, ห่อหมกทอด, ผัดไทย และมันเชื่อมราดกะทิ เป็นต้น

          เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน  เวลา 10.00-21.00 น. (ยกเว้นวันพุธ)
          ที่อยู่ : 32 โชตนา ซอย 12 ถนนศรีลานนา ตำบลป่าตัน อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
          โทรศัพท์ : 08 1530 1172, 0 5321 1848

          รีวิว

          reviewchiangmai.com/ร้านครัวอาจารย์สายหยุด

          eat.edtguide.com/ร้านครัวอาจารย์สายหยุด

8. ร้านถนอมโภชนา

          ร้านอาหารไทยที่เปิดบริการมาแล้วกว่า 30 ปี บริเวณย่านท่าแพ โดดเด่นด้วยป้ายหน้าร้านที่ห้ามนำสุราเข้ามาดื่ม, ห้ามใส่เสื้อกล้าม สายเดี่ยว และเกาะอกเข้ามาทานอาหารในร้านที่ต้องการรักษาวัฒนธรรมการแต่งกายที่เหมาะสม สำหรับลูกหลานสมัยใหม่ บรรยากาศภายในร้านตกแต่งแบบเรียบง่ายในโทนสีขาว ตัดกับเฟอร์นิเจอร์ไม้สีเข้ม เน้นความสะอาดและความพิถีพิถันในการเลือกวัตถุดิบเป็นหลัก สำหรับเมนูอาหารของร้านเน้นขายอาหารจานเดียวในตอนเช้า เช่น ขนมจีนน้ำต่างและข้าวราดแกง ส่วนในช่วงเย็นจะเป็นอาหารไทย เช่น หมูอบ, แกงส้ม, น้ำพริกกะปิ, ปลาทู, แกงเลียง และแกงแค เป็นต้น

          เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 11.00-14.00 น. และ 17.00-20.00 น.
          ที่อยู่ : ถนนคูเมืองด้านนอก (ข้างโรงแรมอโมร่า ท่าแพ) อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่

          รีวิว

          reviewchiangmai.com/ร้านถนอมโภชนา



9. ร้านบ้านไร่ยามเย็น

เชียงใหม่

          ร้านอาหารบรรยากาศดีเปิดให้บริการมาแล้วกว่า 56 ปี ตัวร้านออกแบบเป็นบ้านไม้แบ่งโซนที่นั่งออกเป็น ในร่มและ Open Air เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลิ้มรสชาติอาหารพื้นเมืองเหนือ ตัวร้านเป็นเรือนไม้กาแลดัดแปลงมาจากยุ้งข้าวในสมัยก่อน แถมในระหว่างทานอาหารยังมีดนตรีสดสำหรับบรรเลงคลอไประหว่างทานอาหาร สำหรับเมนูเด็ดของร้าน ได้แก่ ยำยอดมะขาม, ต้มเห็ดเผาะ, แกงผักหวาน, แกงฮังเล, ไส้อั่ว, น้ำพริกอ่อง, น้ำพริกหนุ่ม, ลาบหมูคั่ว และแกงโฮะ เป็นต้น

          เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 11.00-24.00 น. (หยุดทุกจันทร์และอังคารที่ 4 ของเดือน)
          ที่อยู่ : 14 หมู่ 3 ตำบลฟ้าฮ่าม ซอยลังกา ถนนเจริญราษฎร์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
          โทรศัพท์ : 0 5324 7999, 0 5324 4796
          เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก บ้านไร่ยามเย็น

 
10. ร้านเฮือนโบราณบ้านฮิมปิง

เชียงใหม่
ภาพจาก huanboran.com
          ปิดท้ายด้วยร้านอาหารบรรยากาศริมฝั่งน้ำปิงในจุดขนานฝั่งแม่น้ำที่ยาวและสวย ที่สุดอย่าง "ร้านเฮือนโบราณบ้านฮิมปิง" ที่ยังคงความมีเสน่ห์สไตล์ล้านนา แถมที่นี่ยังมีเมนูอาหารทั้งไทยและพื้นเมืองให้เลือกกว่า 200 เมนู พร้อมวงดนตรีมาบรรเลงให้ความบันเทิงหลายแนว อาทิ โฟล์คซองคำเมือง, เพลงไทย, เพลงสากล ทั้งแนวย้อนยุคและร่วมสมัย นอกจากนี้ยังมีมุมบริการกาแฟสด, ชา, น้ำผลไม้ และเบเกอรี่โฮมเมด รวมทั้งยังมีห้องบริการห้องจัดเลี้ยงที่สามารถจุได้ 65-80 ที่นั่งอีกด้วย ส่วนเมนูอาหารเด็ดโดนใจ อาทิ ไก่นึ่งเฮือนโบราณ, ทอดมันกุ้ง, ปลาช่อนไร้ก้าง, ออร์เดิร์ฟเมือง และต้มยำเห็นรวม เป็นต้น

          เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 07.00-01.00 น.
          ที่อยู่ : 154/1 ตรงข้ามค่ายกาวิละ ถนนเชียงใหม่-ลำพูน อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
          โทรศัพท์ : 0 5324 0270, 0 5326 0239
          เว็บไซต์ : www.huanboran.com และ เฟซบุ๊ก เฮือนโบราณบ้านฮิมปิง

          รีวิว

          ร้านเฮือนโบราณ บ้านฮิมปิง - เชียงใหม่

          นี่ ถือเป็นน้ำจิ้มเล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับร้านอาหารเชียงใหม่ที่เราหยิบมาแนะนำกัน ถ้าเพื่อน ๆ มีโอกาสแวะเวียนไปเที่ยวที่เชียงใหม่ก็อย่าลืมแวะไปลิ้มรสเมนูอาหารทั้ง 10 ร้านกันด้วยว่าจะอร่อยสมคำร่ำลือหรือเปล่า 

หมายเหตุ : ข้อมูลต่าง ๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาตรวจสอบอีกครั้งก่อนเดินทาง